มาทำความรู้จักผ้าชนิดต่างๆ ที่ทาง เอ็มพี ยูนิฟอร์ม นำมาผลิตเป็นสินค้าให้กับลูกค้า หรือนำมาผลิตจำหน่ายในท้องตลาด โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่ม Oil & Gas, กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก ตลอดทั้งกลุ่ม Construction Projects ต่างๆ จึงเป็นเหตุผลให้ทาง เอ็มพี ยูนิฟอร์ม ต้องคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียม มาผลิตเป็นสินค้าเพื่อให้ความมั่นใจว่าได้ส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เอ็มพี ยูนิฟอร์ม จะไม่เสาะแสวงหาวัตถุดิบราคาถูกๆ (ผ้าตกเกรด ผ้าสต็อก ผ้าคุณภาพไม่ดี) แต่จะเสาะแสวงหาสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่ามาเพิ่มมูลค่าของสินค้าอยู่ตลอดเวลา
1. ผ้าเวสปอยท์, ผ้า Cotton 100%, ผ้าฝ้าย คือผ้าชนิดเดียวกัน จะแตกต่างกันที่โครงสร้างของการทอ การย้อมสีและขั้นตอนการทำ Finishing ซึ่งอันนี้เองที่ทำให้คุณภาพของผ้าแตกต่างกัน ความหนา ทนทาน แน่น หลวม ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการนำไปใช้ เอ็มพี ยูนิฟอร์ม จะขอเรียกผ้าชนิดนี้ว่าผ้าเวสปอยท์ ชื่อนี้หากมีผู้ไปค้นหาความหมายอย่างเป็นทางการ อาจจะไม่ได้คำตอบ เพราะเป็นชื่อที่กลุ่มช่างตัด-เย็บเสื้อผ้าเขาใช้เรียกกันมาแต่โบราณกาล ในทางการทหารชุดฝึกทหารใหม่ ทั้งกองทัพบก และอากาศ ก็ใช้ผ้าชนิดนี้ รวมทั้งชุดสนามทีสวมออกจากกรมกอง ซึ่งเมื่อก่อนจะเรียกว่าชุดเวส ก็เป็นผ้าเวสปอยท์ อันนี้นี่เอง
ทาง เอ็มพี ยูนิฟอร์ม จึงนำชื่อนี้มาใช้เป็นชื่อของผ้าที่ผลิตเป็นชุดสำหรับงานทางอุตสาหกรรมซึ่งมีคุณลักษณะของผ้าที่แตกต่างจากผ้าคอตตอนชนิดอื่นๆ ถ้ากล่าวถึงผ้าเวสปอยท์ ก็จะเข้าใจตรงกันว่า เป็นผ้าที่มีความหนา ทนทาน ทนความร้อน กันสะเก็ดไฟและประกายไฟ มีคุณสมบัติที่ติดไฟได้ แต่จะไม่ลุกหรือลาม และจะดับไปเองในที่สุด แต่ก็เช่นกันกับผ้าชนิดอื่นๆที่ มีมากมายหลากหลายคุณภาพ หลากหลายราคา แม้จะมีผู้ใช้ชื่อ ผ้าเวสปอยท์ เช่นเดียวกัน ราคาและคุณภาพของผ้าก็จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของการทอ ความหนา ความแน่น ความละเอียด ของการทอผ้าแต่ละชนิด ตลอดทั้งในกระบวนการย้อมสี ใช้สีคุณภาพมาก น้อยขนาดใหน สุดท้ายกระบวนการตกแต่งผ้า(Finishing) ทีให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใข้งาน ผ้าจะนุ่ม แข็ง หยาบ กร้าน เรียบเนียน หรือจะเพิ่มเติมฟังชั่นอื่นๆเข้าไปเพื่อเพิ่มมูลค่าของผ้า ไม่ว่าจะเป็นกันไฟ กันไฟฟ้าสถิตย์ กันกรด กันด่าง กันน้ำหรือสารเคมี ก็อยู่ในขั้นตอนนี้ นี่คือเหตุผลของสินค้าที่มีชื่อเดียวกัน แต่มีราคาที่แตกต่างกัน ยิ่งใช้ผ้าตกเกรด ผ้าสต็อก ใช้ช่างไม่มีฝีมือ ส่วนราคาแน่นอนเอาลงต่ำได้ ส่วนสินค้าเมื่อใช้ไปได้สักพักก็จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างผ้าคุณภาพดี กับผ้าคุณภาพไม่ดี รวมทั้ง Accessory อื่นๆก็เช่นเดียวกัน |
 |
| 1. ผ้าเวสปอยท์(Cotton100%)เส้นคู่อย่างดี |
| เป็นผ้าหนาทอลายทแยง ทอแน่น เนื้อเรียบนุ่ม (ผ่านกระบวนการ Finishing) น้ำหนัก 285-315 gsm. สีไม่ตก ซีดลงเล็กน้อยเมื่อผ่านการใช้งานไปแล้ว มีการหดตัวเล็กน้อย เมื่อผ่านการซักได้ 4-5 น้ำ คุณสมบติของผ้าเวสปอยท์ติดไฟ แต่ไม่ลุกและลามไฟ เนื้อผ้าหนา เหนียวทนต่อการฉีกขาด กันไฟฟ้าสถิตได้ในระดับหนึ่งในขณะที่ผ้าแห้ง กันสะเก็ดไฟ ประกายไฟ ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม |
|
คลิคชมวิดีโอ |
|
 |
| 2. ผ้าเวสปอยท์(Cotton100%)เส้นเดียวอย่างดี |
| เป็นผ้าหนาแต่มีความบางกว่าผ้าเส้นคู่ เนื้อหยาบกว่า (ผ่านกระบวน การ Finishing) น้ำหนัก 255-280 gsm. คุณสมบัติเช่นเดียวกันกับเส้นคู่ เพียงแต่เนื้อผ้าทอหลวมกว่า หยาบกว่า บางกว่า ซีดลงเล็กน้อยเมื่อผ่านการใช้งานไปแล้ว มีการหดตัวเล็กน้อย เมื่อผ่านการซักได้ 4-5 น้ำ คุณสมบติของผ้าเวสปอยท์ติดไฟ แต่ไม่ลุกและลามไฟ เนื้อผ้าหนา เหนียวทนต่อการฉีกขาด กันไฟฟ้าสถิตได้ในระดับหนึ่งในขณะที่ผ้าแห้ง กันสะเก็ดไฟ ประกายไฟ ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม |
|
คลิกชมวิดีโอ
|
|
| 2. ผ้าคอมทวิว( TC Fabric Polyester 65%, Cotton 35%) |
 |
| 3. ผ้าคอมทวิว(Poly65%,Reyon35%)อย่างดี |
| เป็นผ้าบางทอแน่น เนื้อเรียบผิวมัน (ผ่านกระบวน การ Finishing) น้ำหนัก 240 gsm. คุณสมบัติของผ้า ไม่เปือนฝุ่น ไม่ซับน้ำ ไม่ซับน้ำมัน ระบายอากาศได้ดี สวมใส่แล้วเสื้อผ้าไม่ค่อยยับ รีดอยู่ตัวดี ไม่หดตัวเมื่อผ่านการซัก เป็นผ้าที่ไม่เหมาะกับงานที่ต้องมีการเชื่อม ตัด และเจียร์ต่างๆ |
|
|
|
.jpg) |
| 4. ผ้ากันไฟ Nomex IIIA (Flame Resistant) |
| ผ้า Nomex IIIA ที่่ทางร้านนำมาผลิตเป็นเสื้อ กางเกง และชุดหมี จะเป็นผ้า Nomex IIIA (93% Nomex, 5% para-Aramid, 2% Anti static) ขนาดน้ำหนัก 4.5 oz. และ 6.0 oz. ซึ่งได้มาตรฐาน NFPA 2112, ASTM F1506, NFPA 70E กันไฟได้ถาวรตลอดอายุการใช้งาน excellent flame-resistant protection and durability. เป็นชุดที่ได้มาตรฐานสากลสามารถสวมใส่ทำงานกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ระบุให้สวมใส่ชุดผ้ากันไฟได้ทุกโรงงานในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก |
|
|
|
 |
| 5. ผ้ากันไฟ Aramid IIIA (Flame Resistant) |
| ผ้า Aramid เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติเดียวกันกับผ้า Nomex IIIA ในข้อ 1.โดยเป็นการนำเส้นใย Aramid ((93% Meta-Aramid, 5% para-Aramid, 2% Anti static)มาทอ ขนาดน้ำหนัก 200 gsm.ซึ่งได้มาตรฐาน NFPA2112, ASTMF1506, EN11611, EN11612, EN61482-1-2 กันไฟได้ถาวรตลอดอายุการใช้งานเช่นเดียวกันกับข้อ 1 excellent flame-resistant protection and durability. |
|
|
|
 |
| 6. ผ้ากันไฟ FR Cotton (Flame Retardant) |
|
เป็นการนำผ้าเส้นใยธรรมชาติ (Cotton100%) มาทำให้เป็นผ้าหน่วง หรือกันไฟในขั้นตอนการย้อมสี และขั้นตอน Finishing ผ้า จึงทำให้ความสามารถในการกันไฟเสื่อมไปเมื่อผ่านการซักไปได้ประมาณ 50-80 น้ำ จึงเหมาะกับงานในกลุ่มของผู้สวมใสที่เกี่ยวข้องกับงานเชื่อม ตัด เจียร์ ต่างๆ หรือสวมใส่ในช่วงการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ของโรงงานที่ระบุให้สวมใส่ชุดกันไฟ
|
|
|
|
|
 300.jpg)
.jpg)
Presentation